บทความที่ได้รับความนิยม

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

พลฯ อินดี้


บทความบทนี้เป็นบทความที่เขียนไว้ในเฟสบุ๊คเมื่อเช้าวันที่ 31 ตุลาคม 53 ก่อนเดินทางไปรับใช้ชาติไม่ถึงหนึ่งวัน เราตั้งใจบรรยายความรู้สึกของเราสั้นๆผ่านบทความบทนี้เพื่อบอกลาเพื่อนๆทุกคน เวลาผ่านมาสองปีแล้วแต่ความรู้สึกในวันนี้เรายังคงจำได้ดีทีเดียว ทั้งความหดหู่ใจ ที่ต้องจากครอบครัว เพื่อนฝูง และคนที่รักไป เราเลยอยากถ่ายทอดความรู้สึกของเราในวันนี้ให้ทุกคนได้อ่านกันอีกครั้ง
ทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่




" เก็บชุดนักศึกษา กีต้าร์ ขาไมค์ ใส่กระเป๋า หยิบเอาชุดทหาร เต็มยศ มาสวมใส่ ชีวิตศิลปิน ใครเล่า จะเข้าใจ ความภูมิใจ ของสามัญชน คนธรรมดา
  วิชาความรู้ในมหาลัย คงต้องพัก กีต้าคู่ใจต้องเก็บไว้ แล้วหันจับปืนคู่กาย กางเกงยีนส์ขาดๆ คอนเวิสคู่เก่ง เสื้อยืดตัวเก่า พับเก็บไว้ แล้วใส่ชุดตามระเบียบ ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต คงขัดกับอิสระภายในความคิด แต่ก็ยังอยู่ในวินัย
  โลกนี้ช่างกว้างไกล ถนนยังยาวไกล มิตรภาพยังคงอยู่ เสียงเพลงยังก้องในโสตประสาท ความจริงยังมีอยู่ทุกที่ จงก้าวต่อไป อย่างเต็มภาคภูมิ"



                                                                                           วรกันต์ พลฯอินดี้

สังคม วัตถุ ความรัก

สังคมทุกวันนี้ต้องการความจริงใจ
ผู้คนสมัยนี้เลือกคู่ครองกันที่รูปร่าง หน้าตา สวย หล่อ
ชื่อเสียง เงินทอง เอาไว้เดินอวดกัน วัตถุนิยม
 นั้นคือความจริงใจหรือความพึงพอใจ
นั้นคือ สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตหรือสิ่งที่เหมาะสมที่สุดในชีวิต
 แฟนดีๆเราไม่ต้องเดินตามหา แฟนหน้าตาดีๆคุณต้องคอยตามหา
เขาใช้อะไรตัดสิน ความสุขข้างกาย
หรือคนเราต้องหาสิ่งดึงดูดใจราคาแพงๆมาทำให้คนรักเราอย่างนั้นเองหรือ





                                                                                    วรกันต์

ความกลัว

คนเราต้องการที่จะหลีกหนีเมื่อเผชิญกับความหวาดกลัว
 เพียงเพื่อการเอาตัวรอดไปวันๆ บางครั้งไม่เคยรู้จักกับความพ่ายแพ้
 เพราะหลีกทางให้กับมันอยู่ตลอดเวลาเมื่อพบเจอ
 เพียงเพื่อเอาตัวรอด ขี้ขลาดเมื่อเจอกับปัญหา
แล้วเมื่อไหร่ ตอนไหนที่คุณเจอได้เจอกับความยากลำบาก
และต่อสู้กับมันเพื่อให้ได้ชัยชนะ ได้รับความสำเร็จ
 และได้รับการยกย่องจากคนรอบข้างอย่างเต็มภาคภูมิ



              "ชีวิตเราล้มบบ้างก็ได้
              เมื่อเหนื่อยก็หยุดพักบ้างก็ได้
              เพื่อจะได้คิดได้ทบทวนอะไรดีๆขึ้นมาได้บ้าง"





                                                     วรกันต์

แนะนำความตั้งใจ

อยากจะสร้างความประทับใจ      บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร    คิดว่าเวลาคงเหมาะแก่การที่เราจะหยิบยื่นเรื่องราวที่ผ่านพบเจอ    มาถ่ายทอดให้ทุกคนได้อ่าน 
เราได้พูดคุยกับพี่ปลาเจ้าของร้านหนังสือบูคู ปัตตานี  เขาบอกเราว่า ถ้าเราไม่ติสก์มากเกินไปหรือไม่ยึดติดมากเกินไปก็เอาเรื่องราวที่เราเขียนไว้มาลงในบล็อกเถอะ  สมัยนี้เทคโนโลยีมันช่วยเราให้สะดวกมากขึ้น เข้าถึงคนอ่านมากขึ้น ,,,,,,,,,
เราเริ่มลงมือนั่งเขียนหนังสือ แต่งบทกวี ด้วยความสับสนภายในจิตใจ ในตอนนี้เราคิดอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีจุดประสงค์ ไม่มีเป้าหมาย ไม่คาดหวังว่าจะเขียนเพื่อต้องการให้ผู้อ่านได้รับทราบอะไร หรือตัวเราต้องการจะสื่อสารอะไรให้คุณได้รับรู้ ประสบการณ์ที่ผ่านมาได้เจอเรื่องราวอะไรค่อนข้างมากทั้งดีและร้าย สุขและทุกข์ มันคือชีวิตของเราที่ได้เรียนรู้และพอเจอกับอะไรมากมายด้วยตัวเราเอง อนาคตเราจะเป็นอย่างไรไม่อาจรู้ได้ จะทำงานอะไร มีครอบครัวหรือไม่ ยังไม่รู้ อยากให้ทุกคนตั้งเป้าหมายของชีวิตของตัวเองให้ดี จะได้ไม่เลื่อนลอยเหมือนดั่งบทความบทนี้ ที่ยังสับสนอยู่ภายใต้ความคิด และความทุกข์อย่างไม่มีจุดหมาย